Friend’s Trip เขาหลวง..อุทยานฯรามคำแหง จ.สุโขทัย

10-13 สิงหา’61

---

ผืนป่าอุทยานฯรามคำแหงหรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม“ป่าเขาหลวง” ผืนป่าแห่งนี้มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากมาย โดยเฉพาะเป็นแหล่งว่านสมุนไพรต่างๆ ที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย บนยอดเขาหลวงจะมียอดเขาสูง 4 ยอดที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า คือ ยอดเขานารายณ์..สูงจากระดับน้ำทะเล 1,160 เมตร ยอดเขาพระแม่ย่า..สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ยอดเขาภูกา..สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร และยอดเขาพระเจดีย์..สูงจากระดับน้ำทะเล 1,185 เมตร ตามยอดเขาเหล่านี้จะมีหน้าผาสูงชันที่งดงามและเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดียิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารที่สำคัญและก่อเกิดน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกหินราง น้ำตกลำเกลียว เป็นต้น

---

วันแรกของการเดินทาง

23.30 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯสู่ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย

วันที่สองของการเดินทาง

05.30 น. ถึง อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย แวะซื้อเสบียงอาหารและทานอาหารเช้า จากนั้นเดินทางเข้าสู่อุทยานฯรามคำแหง พอตะวันเริ่มฉายแสงแผดกล้าก็จะมองเห็นเขาหลวงเปรียบเสมือนกำแพงขุนเขาที่ทอดตัวยาวตั้งตระหง่านขวางกั้นอยู่เบื้องหน้า เพียงชั่วครูก็ถึงอุทยานฯรามคำแหง นำสัมภาระให้ลูกหาบหรือจะแบกเองก็ตามใจ แล้วเดินทางพิชิตยอดเขาหลวงที่มีระยะทางเพียง 3,720 เมตร หนทางจะเริ่มลาดชันทีละนิดๆ บางช่วงก็ชันดิก และบางช่วงราบเรียบ ตามทางเดินจะร่มครึ้มไปด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ และตามพื้นเบื้องล่างจะมีดอกไม้ป่าออกดอกชูช่องดงาม รวมทั้งเห็ดหลากหลายสีสันผ่านต้นประดู่ใหญ่ ชานหินมออีหก จุดชมวิว แหล่งน้ำดิบผามะหาด ชานเบิกภัย ไทรงาม ปล่องนางนาค ลำธารพระยาแล่นเรือ และทานอาหารเที่ยงแบบปิกนิกบนยอดเขาหลวง จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย ยามเย็นเดินลุยทุ่งหญ้าสีทองสู่ยอดเขาพระแม่ย่า ชมพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมขอบฟ้าและพืชพันธุ์ไม้แปลกตาที่ออกดอกสีสดใสสวยงาม หลังอาหารเย็นเชิญนั่งพูดคุยสนทนาก่อนหลับใหลด้วยความอ่อนเพลีย

วันที่สามของการเดินทาง

05.00 น. ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกบนยอดเขานารายณ์ และแวะชมหน้าผาหินที่มีลักษณะคล้ายกบ ซึ่งบริเวณนี้จะมีต้นปรงขึ้นอยู่มากมาย และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ผืนป่าเขาหลวงที่สวยงาม ทานอาหารเช้าและพักผ่อนตามสบาย หลังอาหารเที่ยงจึงเดินลัดเลาะทุ่งหญ้าสีทองที่พลิ้วไหวไปตามแรงลมสู่ยอดเขาภูกา ผ่านป่าดิบเขาที่ชุ่มชื้นซึ่งตามคาคบจะมีมอสส์และไลเคนส์ขึ้นปกคลุมดุจดั่งต้นไม้ใส่เสื้อ ตื่นตะลึงกับหน้าผาที่สูงชันและยิ่งใหญ่อลังการกว่าหน้าผาใดๆของยอดเขาภูกา ตามลานหินและพื้นดินจะมีพรรณไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลรอบตัว ยามเย็นชมพระอาทิตย์อัสดงที่ยอดเขาพระเจดีย์ ทานอาหารเย็นพร้อมกับชมแสงไฟระยิบระยับของตัวเมืองคีรีมาศและพิษณุโลก รวมทั้งเปลวไฟลุกโชติช่วงชัชวาลของลานกระบือ ก่อนแยกย้ายพักผ่อนหลับนอน

วันที่สี่ของการเดินทาง

08.00 น. หลังอาหารเช้า นำสัมภาระให้ลูกหาบหรือจะแบกเองก็ตามแต่ อำลาเขาหลวงและเดินทางลงเขา อาบน้ำและทานอาหารเที่ยงที่อุทยานฯ บ่ายๆเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทานอาหารเย็นตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งของที่ระลึกที่นครสวรรค์ ไม่ดึกนักก็ถึงกรุงเทพฯ

 

ค่าใช้จ่าย :
ท่านละ 3,000 บาท

ค่าใช้จ่ายรวม :

รวมค่ารถตู้ปรับอากาศเดินทางไป-กลับ อาหาร8มื้อ ค่าธรรมเนียม ลูกหาบแบกเสบียงอาหาร มัคคุเทศก์ เครื่องดื่ม รวมทั้งค่าประกันอุบัติเหตุทุกที่นั่งๆละ 500,000 บาท

ผู้ที่เข้าร่วม Friend’s Trip จะต้องเป็นสมาชิกสโมสรฯเท่านั้น โดยสมาชิกฯ 1 ท่าน มีสิทธิ์พาเพื่อนสนิทมิตรสหาย(ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกฯ)ร่วมไปด้วยอีก 1 ท่าน(ในราคาเดียวกัน) เปิดรับเพียง 8 ท่าน เท่านั้น

หมายเหตุ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ควรออกกำลังกายก่อนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ สำหรับค่าลูกหาบแบกสัมภาระขึ้น-ลงเขา ท่านต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง และหากท่านใดไม่มีเต็นท์และถุงนอน สามารถติดต่อเช่าจากทางบริษัทฯได้

ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง :

สนง.ใหญ่ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. โทร.0-2245-4211 , 0-2247-5371-2 , 0-2642-4230-1 ต่อ 20 ; 0-2642-4831 (เบอร์ตรง) โทรสาร.0-2640-0020 e-mail : [email protected]

ท่านสามารถชำระเงินค่าบริการได้ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. หรือสามารถชำระผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนรางน้ำ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 010-8-78507-1 ชื่อบัญชี“นายโชติช่วง ศูรางกูร” โดยวางเงินมัดจำท่านละ 1,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทางล่วงหน้า 10 วันด้วยตนเอง

กรณีการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารฯ กรุณาส่งโทรสารใบโอนเงินมายังสโมสรฯที่เบอร์โทรสาร.0-2640-0020 หรือ e-mail : [email protected] พร้อมทั้งแจ้งชื่อ-นามสกุลของผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน หมายเลขสมาชิกฯ(ถ้ามี) และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า