วสันตฤดูแห่งป่าใส่เสื้อ..ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

25-29 พฤษภา’61

ไอเย็นชำแรกผิวผะแผ่ว เมื่อจุดที่เรายืนอยู่เวลานี้คือ“หลังคาของประเทศ” ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,500 เมตร วลี“ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” จึงใช่เป็นเพียงคำคมที่มีไว้ให้จดจำเพื่อสำเหนียกตัวตนเท่านั้น ละอองไอของเมฆหมอกที่โอบคลุมอยู่เกือบตลอดเวลา เอื้ออำนวยต่อการดำรงอยู่เยี่ยงผืนพรมธรรมชาติสีเขียวสดของพืชพันธุ์ เช่น มอสส์ และเฟิร์น เป็นต้น รองเท้านารีอินทนนท์ผลิดอกออกประดับป่าในยามวัสสันตฤดูกาล และกุหลาบพันปีกำลังรอคอยคืนวันแห่งคิมหันต์ฤดูที่ตนจะได้แย้มกลีบงามออกอวดโลกกับเขาบ้างอย่างสุขุม แต่ไม่ว่ายามใด เห็ดป่าจะถูกเกาะกุมด้วยหยดน้ำแห่งความชุมชื้นจนผิวสีเหลืองบ้าง แดงบ้าง สะท้อนแสงแวววาวเปล่งประกายดุจอัญมณีอยู่ตามมุมเล็กๆแห่งป่าดึกดำบรรพ์อันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งเขียวครึ้มอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกเย็นยะเยือกมานานแสนนาน ผืนดินที่ชื้นแฉะอยู่ตลอดปีฟ้องว่าที่นี่คือป่าต้นน้ำที่ยังสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่นี่คือฟองน้ำธรรมชาติก้อนใหญ่ที่ซึมซับความชุ่มชื้นไว้ให้มวลมนุษยชาติ และที่นี่คือต้นธารแห่ง “ขุนน้ำอินทนนท์” คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ผู้รังสรรค์บทเพลงแห่งสายน้ำอันเป็นนิรันดร์กาลชั่วนาตาปี มโหรีธรรมชาติวงมหึมาวงนี้ ขับขานบทเพลงดังอึงอลไปทั่วป่า ขับกล่อมวิญญาณไพรให้อภิรมย์ไม่รู้เหน็ดเหนื่อย แต่ใครเลยจะล่วงรู้ว่า ณ จุดเริ่มต้นที่สูงที่สุดแห่งนี้ บทเพลงที่ไม่มีวันจบได้ไหลระเรื่อยไปรวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ที่โยงใยสายสัมพันธ์แห่งพี่น้องชาวไทยเข้าไว้ด้วยกัน


วันแรกของการเดินทาง

18.30น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

“พระธาตุนภพลภูมิสิริ”

 

“น้ำตกวชิรธาร”

วันที่สองของการเดินทาง

06.00น. ล้างหน้าล้างตาทานอาหารเช้าที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แล้วเดินทางสู่น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่มีความสูงที่สุดของดอยอินทนนท์ สูงราว 260 เมตร มีชั้นเชิงบนหน้าผาสูงกว่า30ชั้น ความงามของสายน้ำจะไหลลดหลั่นลงมาทั่วทั้งหน้าผาที่สูงใหญ่มหึมา ส่งเสียงอื้ออึงดังไปไกลเพื่อตอกย้ำให้เราเชื่อว่า “ศิลปินใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าศิลปินธรรมชาตินั้นไม่มีอีกแล้ว” ก่อนเที่ยงเดินทางสู่ดอยอินทนนท์ หนทางจะลัดเลาะคดเคี้ยวสู่ภูเขาสูงที่เลียบลำน้ำแม่กลางและแนวเทือกเขาที่ตัดเป็นหน้าผาสูงชันขึ้นไปยังยอดเขาลูกแล้วลูกเล่า แวะชมน้ำตกสิริธาร..น้ำตกแห่งใหม่ที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงามไม่น้อยหน้าน้ำตกใด ก่อนเดินทอดน่องชมโครงการหลวงฯที่ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยไม้ดอกเมืองหนาวอย่างสวยงาม และชมน้ำตกสิริภูมิที่หลั่งไหลลงมาจากหน้าผาสูงเป็นเส้นสีขาว2สายดูคล้ายงาช้าง ก่อนตกลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง กางเต็นท์และเก็บสัมภาระ แล้วทานอาหารเที่ยง บ่ายๆเดินทางไปชมกลุ่มน้ำตกแม่ปาน เป็นแหล่งชุมนุมน้ำตกที่มีความงดงามใกล้เคียงกันหลายแห่ง ได้แก่ น้ำตกห้วยทรายเหลือง น้ำตกแม่ปาน ออบน้อย น้ำตกผาสำราญ และน้ำตกสองพี่น้อง โดยเฉพาะน้ำตกแม่ปานที่มีความสูงเป็นอันดับ3ของดอยอินทนนท์ ทานอาหารเย็นท่ามกลางหมู่สกุณาที่ร้องขับขานไปทั่วราวป่า ก่อนจะบินกลับรังนอน ค่ำคืนนี้อากาศยังเย็นเช่นวันวาน เชิญเพื่อนๆนั่งคุยกันตามภาษาคนรักธรรมชาติก่อนเข้าสู่นิทรา

 

“ชมทะเลหมอกด้านข้างพระธาตุนภพลภูมิสิริ”

 

“ทางเดินในอ่างกา

วันที่สามของการเดินทาง

08.30น. หลังอาหารเช้าออกเดินทางสู่ กม.41-42 สักการะพระธาตุนภเมทนีดลและนภพลภูมิสิริ ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ที่มองเห็นได้กว้างไกลตา ท่ามกลางสายหมอกขาวโพลนที่คลอเคลียอยู่รอบกาย จากนั้นเดินทางสู่จุดสูงสุดของเมืองไทย สักการะพระธาตุเจ้าอินทรวิชยานนท์ ทานอาหารเที่ยงแบบปิกนิก บ่ายๆเดินป่าตามเส้นทางสายอ่างกาเป็นป่าดิบเขาสูงที่อุดมสมบูรณ์และมีเพียงไม่กี่แห่งในเมืองไทย มีมอสส์และไลเคนส์เกาะห้อยระโยงระยางอยู่ตามไม้ใหญ่อย่างหนาแน่นดุจดั่งต้นไม้ใส่เสื้อ นับเป็นแหล่งดูนกที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะนกที่พบที่นี่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย อาทิ นกกินปลีหางยาวเขียว เป็นต้น ทานอาหารเย็นก่อนเข้าสู่นิทราในอ้อมกอดของขุนเขา

 

“น้ำตกแม่ปาน ชั้น2และชั้น3

“น้ำตกสิริธาร

วันที่สี่ของการเดินทาง

05.30น. อากาศเช้าเย็นยะเยียบกาย เดินทางสู่ยอดดอยอินทนนท์เพื่อชมพระอาทิตย์รุ่งอรุณ หลังอาหารเช้าเก็บสัมภาระแล้วเดินทางกลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยแวะชมน้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกที่มีความสูงเป็นอันดับ2ของดอยอินทนนท์ สูงราว 80 เมตร สายน้ำจะกระแทกกระทั้นกับชั้นหินแต่ละเชิงก่อนจะลงมากระทบพื้นหินด้านล่าง ทำให้ละอองไอของสายน้ำฟุ้งกระจายตลบอบอวลไปทั่วหุบเขาจนกายเราเย็นฉ่ำ ยามแสงแดดลอดเรือนยอดไม้ลงมากระทบละอองน้ำก็จะเกิดสายรุ้งโอบโค้งพาดผ่านน้ำตกทั้งสายอย่างงดงามยิ่ง แล้วออกเดินทางสู่สวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ ทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัยระหว่างทาง บ่ายๆชมความงามของพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์..เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้นานาชนิดที่พบในเมืองไทยมาไว้ ณ ที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก และกล้วยไม้ รวมทั้งพืชชั้นต่ำจำพวกเฟิร์น ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งสถานที่ได้อย่างสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ ทานอาหารเย็นตามอัธยาศัยพร้อมทั้งช้อปปิ้งของที่ระลึกที่ตลาดทุ่งเกวียน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

“ป่าใส่เสื้อด้านหลังพระธาตุเจ้าอินทรวิชยานนท์

วันที่ห้าของการเดินทาง

04.00-05.00น. ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

การเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง :

  1. เสื้อกันฝน,อุปกรณ์กันฝน,เสื้อกันหนาว
  2. รองเท้าผ้าใบเดินป่า,รองเท้าฟองน้ำหรือรัดส้น
  3. ถุงพลาสติกหรืออุปกรณ์ใส่เสื้อผ้าและกล้องถ่ายรูปกันเปียกน้ำ
  4. ไฟฉาย,กระติกน้ำ,หมอนลม,หมวกกันแดด
  5. ยาแก้โรคประจำตัว(ถ้ามี)
  6. จิตใจของผู้พิชิตที่ชอบเสาะแสวงหาธรรมชาติอันพิสุทธิ์

 

แบกสัมภาระของตัวเอง
รวมทั้งเต็นท์ และถุงนอน
(ที่เรามีให้)

 แบกสัมภาระเฉพาะของตัวเอง

 มีลูกหาบที่ว่าจ้างให้แบกสัมภาระได้

 ไม่ต้องแบกสัมภาระ

ค่าใช้จ่าย :
ท่านละ 5,500 บาท (สมาชิก 5,100 บาท)

ค่าใช้จ่ายรวม :
รวมค่ารถปรับอากาศเดินทางไป-กลับ อาหาร7มื้อ บ้านพักอุทยานฯ2คืน ค่าธรรมเนียม มัคคุเทศก์ เครื่องดื่ม รวมทั้งค่าประกันอุบัติเหตุทุกที่นั่งๆละ 500,000 บาท

หมายเหตุ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ควรออกกำลังกายก่อนการเดินทางล่วงหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ สำหรับค่าลูกหาบแบกสัมภาระขึ้น-ลงเขา ท่านต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง :
สนง.ใหญ่ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.30-17.30 น. โทร.0-2245-4211 , 0-2247-5371-2 , 0-2642-4230-1 ต่อ 20 0-2642-4831 (เบอร์ตรง) โทรสาร.0-2640-0020

ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง :

ท่านสามารถชำระเงินค่าบริการได้ด้วยตนเอง ณ สำนักงานใหญ่ / สาขาราชปรารภ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.30-19.00 น. หรือสามารถชำระผ่านบัญชีธนาคารดังนี้ : ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนดินแดง บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ : 128-306315-2 ชื่อบัญชี”บริษัท สื่อเดินทาง จำกัด” โดยวางเงินมัดจำท่านละ 1,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทางล่วงหน้า 10 วัน

กรณีการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารฯ กรุณาส่งโทรสารใบโอนเงินมายังสโมสรฯที่เบอร์โทรสาร.0-2640-0020 พร้อมทั้งแจ้งชื่อ-นามสกุลของผู้ร่วมเดินทางทุกคน หมายเลขสมาชิกฯ(ถ้ามี) และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า